รู้ไว้ไม่เสียหาย แนะวิธีการอาบน้ำอย่างไร ให้สุขภาพดี ทั้งร่ายกายและจิตใจ
รู้ไว้ไม่เสียหาย แนะวิธีการอาบน้ำอย่างไร ให้สุขภาพดี ทั้งร่ายกายและจิตใจ
การอาบน้ำ คือกิจวัตรประจำวัน ที่ทุกคนต้องปฎบัติทุกวันอยู่แล้ว ซึ่งการอาบน้ำไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายสะอาดและรู้สึกสดชื่น แต่ยังเป็นวิธีหนึ่งในการดูแลผิวพรรณให้ดีขึ้นอีกด้วย
เพราะฉะนั้น การอาบน้ำอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทราบพื่อให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและทำให้มีสุขภาพดี โดยอุณหภูมิมีความสำคัญอย่างมากในการอาบน้ำ สามารถแบ่งได้ดังนี้
1. การอาบน้ำร้อน
ที่มีอุณหภูมิประมาณ 37-42 องศาเซลเซียส จะช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และรู้สึกผ่อนคลาย เช่นเดียวกับการแช่ออนเซ็น อย่างไรก็ตาม ไม่ควรอาบหรือแช่น้ำร้อนเกิน 15 นาที เนื่องจากอาจเกิดอาการหน้ามืดเป็นลมได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้ผิวแห้ง จึงควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำ
2. การอาบน้ำอุ่น
ที่มีอุณหภูมิประมาณ 27-37 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการอาบน้ำ ช่วยขับของเสีย ทำให้ผ่อนคลาย ลดอาการบวม มือเท้าเย็น เส้นเลือดขอด และช่วยในการไหลเวียนเลือด ทำให้ผ่อนคลาย สบายตัว และนอนหลับง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นก็สามารถทำให้ผิวแห้งได้
3. การอาบน้ำเย็น
ที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 27 องศาเซลเซียส จะช่วยให้ร่างกายและกล้ามเนื้อตื่นตัว ทำให้รู้สึกสดชื่น ทั้งนี้ มีงานวิจัยต่างประเทศร ะบุว่า การอาบน้ำเย็นยังสามารถลดอาการซึมเศร้า หดหู่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรทาครีมบำรุงผิวทุกครั้งหลังจากอาบน้ำเย็น เพื่อลดอาการผิวแห้งแตก
นอกจากนี้ การอาบน้ำในแต่ละครั้งไม่ควรใช้เวลานานเกินไป โดยทั่วไปควรอยู่ประมาณไม่เกิน 5 – 10 นาที และไม่ควรอาบน้ำดึกเกินไป เพราะอาจทำให้ร่างกายเสียสมดุลในการปรับอุณหภูมิ ทำให้เกิดผิวแห้งและผิวขาดความชุ่มชื้น
ส่วนความถี่ในการอาบน้ำปกติ แนะนำให้อาบน้ำวันละ 1 – 2 ครั้ง ไม่ควรอาบน้ำบ่อยจนเกินไปเพราะอาจทำให้มีอาการผิวแห้ง ระคายเคืองตามมาได้ และไม่ควรเว้นระยะห่างของอาบน้ำนานเกินไปเพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคบางอย่าง เช่น ผิวหนังอักเสบติดเชื้อ หิด เหา หรือ โลน เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการแพทย์